รับสร้างบ้านปรับแผน รับมือผู้สูงอายุ

Facebook Twitter Email
 

กระแสของสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และคาดว่าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในช่วงปี 2567-2568

กระแสของสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และคาดว่าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในช่วงปี 2567-2568  สร้างโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เพียงเห็นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ให้สอดคล้องกับเทรนด์ตลาดของผู้สูงอายุ ออกมาสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ มีหลากหลายรูปแบบและระดับราคา มีทั้งเป็นของภาครัฐและเอกชน  แต่เริ่มเห็นการปรับตัวขอธุรกิจรับสร้างบ้าน  ที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากกลุ่มผู้สูงอายุ หันมาให้ความสนใจการออกแบบบ้านและใช้เป็นจุดขาย  ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมไทยในยุคก้าวสูงสังคมผู้สูงวัยมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ศิริพร สิงหรัญ รองเลขาธิการและอุปนายกฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า  แนวโน้มเทรนด์ธุรกิจรับสร้างบ้านจะเปลี่ยนตามไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค  โดยเทรนด์เริ่มเห็นชัดเจน การพัฒนาแบบบ้านสำหรับรองรับความต้องการของผู้สูงมากขึ้น ไม่เพียงแค่การออกแบบพื้นฐาน แต่ปัจจุบันบริษัทรับสร้างบ้านจะใช้แบบบ้านผู้สูงอายุเป็นส่วนหนึ่งนำเสนอให้กับลูกค้า  สอดคล้องกับสังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ  โดยองค์การสหประชาชาติได้ประเมินสถานการณ์ว่าปี 2544-2643 จะเป็นศตวรรษแห่งผู้สูงอายุ โดยคาดการณ์ว่าจะมีประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไปมากกว่า 10 % ของประชากรรวมทั่วโลกสำหรับประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติสรุปว่าไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2548 โดยมีประชากรผู้สูงอายุ 10.4 % ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ในช่วงปี 2567-2568 

พร้อมทั้ง มุ่งการนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ในระบบการก่อสร้าง จากเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น อีกทั้งเพื่อรองรับปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคต และลดระยะเวลาการทำงาน  โดยเทคโนโลยีการใช้โครงสร้างบ้านเหล็ก "H-Beab I-Beam"   ซึ่งในต่างประเทศมีการใช้อย่างแพร่หลายมานานแล้ว โครงสร้างเหล็กนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานแล้ว ยังลดระยะเวลาทำงานลง 30% เมื่อเทียบกับการก่อสร้างระบบเดิมก่ออิฐฉาบปูน   

"โครงสร้างเหล็กในต่างประเทศมีการใช้มานานแล้ว เพื่อลดต้นทุนการผลิต ขณะที่เมืองไทยเพิ่งเริ่มจะยอมรับในโครงการสร้างเหล็ก ไม่เพียงลดระยะเวลาก่อสร้างใช้เวลาก่อสร้างเสร็จประมาณ  8 เดือน เมื่อเทียบกับแบบเดิมก่ออิฐฉาบปูนใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี   นอกจากนี้ สามารถออกแบบได้หวือหวามากกว่าคอนกรีต เนื่องจากโครงสร้างเหล็กเบากว่าโครงสร้างคอนกรีต"     

ศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ซีคอน โฮม จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทให้ความสนใจกับกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้น โดยวางแผนออกแบบบ้านใหม่ให้สอดรับกับสังคมผู้สูงอายุ โดยจะออกแบบบ้านชั้นเดียว เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเพื่อการอยู่อาศัยในวัยเกษียณ หรือเป็นบ้าน 2 ชั้น แต่ออกแบบให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่คำนึงถึงความปลอดภัยกับผู้สูงอายุเป็นหลัก เช่น พื้นที่เรียบเสมอกัน พื้นไม่ลื่นไม่มัน ยาวต่อเนื่องไปทั้งหลัง เพื่อการเดินหรือใช้รถเข็นไม่สะดุด ภายในบ้านออกแบบการวางประตู หน้าต่าง ให้มีความโปร่งโล่งสบาย มี แสงสว่างเข้าถึงเพียงพอ ห้องน้ำมีราวจับ กระเบื้องห้องน้ำกันลื่น เป็นต้น

เช่นเดียวกับ บริษัทมีนบุรีสร้างบ้าน จำกัด ได้ออกแบบบ้านชั้นเดียว สไตล์คอนเทมโพรารี่  ที่มีฟังก์ชั่นรองรับไลฟ์สไตล์สำหรับผู้สูงอายุ เน้นการใช้พื้นที่ลาดชัน พร้อมราวจับแทนที่การใช้บันไดหรือพื้นที่สเต็ปต่างๆ เนื่องจากผู้สูงอายุมีข้อจำกัดทางด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัย นอกจากนี้ได้จัดวางห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุให้มีสามารถเดินเข้า-ออกที่สะดวกสบายเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำได้อย่างง่าย พร้อมเสริมหน้าต่างมาสร้างอากาศถ่ายเทดีขึ้น ซึ่งหลีกเลี่ยงการจัดวางห้องนอนให้อยู่ใกล้กับห้องครัวเพื่อไม่ให้ได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์มารบกวนการพักผ่อน นอก จากนี้การใช้เพดานสูงเพื่อเพิ่มความโปร่ง บวกกับการนำสีเอิร์ทโทน อย่างสีน้ำตาล-ครีมเข้ามาเป็นองค์ประกอบในการตกแต่งบ้าน ได้สร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นที่เหมาะกับผู้สูงอายุ

ด้านภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมความพร้อมรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ  โดยสร้างทีมนักออกแบบเฉพาะเพื่อดูแลและพัฒนาแบบบ้านสำหรับรองรับความต้องการของผู้สูงอายุ 

เบื้องต้นมี 2 แบบ  คือ แบบเอส1 สำหรับผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งในแบบดังกล่าวจะถูกเพิ่มในบ้าน ทุกแบบฟรี 1 ห้องต่อ 1 หลังหากลูกค้าต้องการ และแบบเอส 2 สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ในราคา 3.85 หมื่นบาท ต่อห้อง นอกจากนี้ในส่วนทางลาดสำหรับวีลแชร์ บริษัทได้รวมทางลาดหลากดีไซน์ให้ลูกค้าได้เลือกตามต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 แบบ ราคา 3.9-5 หมืนบาท

นอกจากนี้ มีการพัฒนาบริการเสริม 'Landy Elder Care'  ได้เริ่มจากการพัฒนาแบบในส่วนของห้องน้ำและทางลาดสำหรับวีลแชร์เป็นอันดับแรก ภายใต้บริการ 'Landy Elder Care Bathroom' โดยเน้นในเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานผสานกับความสวยงามที่บ่งบอกถึงความปลอดภัยและความอบอุ่น นอกจากนี้ยังเลือกวัสดุด้านความปลอดภัยที่มีดีไซน์ควบคู่กับคุณภาพ  

"การพัฒนาแบบบ้านในอนาคตนั้น จำเป็นต้องเน้นในเรื่องฟังก์ชั่นเป็นสำคัญ ซึ่งจะทำได้อย่างมีศักยภาพแค่ไหนนั้นอยู่ที่ความพร้อมของทีมงานด้านการออกแบบ แลนดี้ โฮม เห็นความสำคัญในส่วนนี้อย่างมาก และเราเชื่อว่า 'ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม' จะเป็นปัจจัยที่จะสร้างความมั่นคงให้แก่ธุรกิจ ในแต่ละปีเราทุ่มงบกว่า 3 ล้านบาทเพื่อใช้ในส่วนงานด้านการพัฒนาและวิจัย เพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้อยู่อาศัยในไทย โดยเราจะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในด้านดังกล่าว" ภัทรา กล่าว


ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/708086

ไอเดียแต่งบ้าน